สอบผ่านหรือไม่ ย้อนรอยคำสัญญาของ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป กับ ลิเวอร์พูล
“กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว” คือคำพูดที่เรามักจะได้ยินกันบ่อยๆ โดยมันเป็นการสื่อถึงเรื่องที่ว่าบางอย่างต้องใช้เวลากว่าที่จะประสบความสำเร็จได้ ไม่ใช่ว่าจะสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ภายในช่วงเวลาแค่ไม่กี่วัน
ลิเวอร์พูล ภายใต้การบริหารของ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป กลุ่มทุนจาก สหรัฐอเมริกา ที่นำโดย จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ ก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน เพราะหลังจากที่เข้ามาเทคโอเวอร์ทีมเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ปี 2010 แล้วนั้น มันก็ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่ “หงส์แดง” จะก้าวมาเป็นทีมที่คู่แข่งต้องหวาดกลัวเหมือนอย่างในฤดูกาลนี้ได้
ทั้งนี้ ตอนที่เข้ามาเทคโอเวอร์ทีมในช่วงแรกๆ นั้น เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป เคยให้สัญญาเกี่ยวกับการบริหารทีมเอาไว้หลายข้อ ซึ่งเมื่อวันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา ถือเป็นวันครบรอบ 8 ปีของการที่ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป เข้ามาบริหารยอดทีมแห่งถิ่น แอนฟิลด์ พอดี ดังนั้นเราจะมาย้อนดูกันว่าสิ่งที่พวกเขาเคยให้สัญญาเอาไว้มีอะไรบ้าง และพิจารณากันว่าพวกเขาทำได้ตามสัญญาหรือไม่
– สร้างวัฒนธรรมของการชนะ
แปลอีกแบบก็คือ ลิเวอร์พูล ต้องชนะให้ได้เรื่อยๆ แม้ว่าจะเป็นในเกมเล็กๆ ก็ตาม ซึ่งจนถึงตอนนี้มันก็ค่อนข้างเป็นไปในทิศทางที่ดีเลยทีเดียว หลังจากที่ “หงส์แดง” พลาดในเกมเล็กๆ น้อยลง อย่างเช่นในฤดูกาลนี้ที่พวกเขายังไม่แพ้ใครในลีกแม้แต่นัดเดียว
ทั้งนี้ การทำอย่างนั้นได้ถือว่ามีความหมายอย่างมาก เพราะมันจะส่งผลไปสู่โอกาสการเป็นแชมป์ในบั้นปลาย และจะทำให้เหล่า “เดอะ ค็อป” มีความสุขอย่างมากนั่นเอง
สรุป : กำลังทำได้ดี
– พาทีมมีลุ้นแชมป์
สำหรับทีมใหญ่ๆ แล้วนั้น เป้าหมายของพวกเขาย่อมเป็นการได้แชมป์มาครอง เฮนรี่ เองก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน เพราะเขาเคยพูดเอาไว้ว่า “จะพา ลิเวอร์พูล กลับไปอยู่ในจุดที่คู่ควรในวงการฟุตบอลอังกฤษและวงการฟุตบอลยุโรป, พาทีมประสบความสำเร็จ และมีลุ้นแชมป์”
แน่นอนว่าจนถึงตอนนี้ ลิเวอร์พูล ภายใต้การบริหารของ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป ยังไม่ได้ถ้วยแชมป์รายการใหญ่ๆ มาวางประดับตู้โชว์ที่ แอนฟิลด์ โดยถ้วยรางวัลเดียวที่ “หงส์แดง” ในยุคของ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป ได้มาครองคือ ลีก คัพ เมื่อฤดูกาล 2011-12 แต่ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ก็เข้าใกล้กับการได้แชมป์รายการใหญ่ๆ อยู่หลายครั้ง การไปถึงรอบชิงชนะเลิศของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลก่อน และการออกสตาร์ตในลีกได้ดีในฤดูกาลนี้ คือหนึ่งในตัวอย่างที่บอกถึงเรื่องนั้นได้อย่างชัดเจน
สรุป : สอบผ่าน
– เปลี่ยนจากทีมที่แพ้บ่อย ให้เป็นทีมที่ชนะรัวๆ
“เราให้ความสำคัญกับการชนะมากที่สุด เรามีประวัติศาสตร์ที่ดีในด้านการชนะ และวันนี้เราก็อยากให้เหล่าแฟนบอลของ แอลเอฟซี ได้รู้ว่าเราตั้งใจที่จะนำแนวคิดแบบนั้นมาใช้กับสโมสรฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมแห่งนี้เช่นกัน”
นั่นคือสิ่งที่ เฮนรี่ ลั่นวาจาเอาไว้ตอนที่เข้ามาเป็นผู้บริหารของทีม น่าเสียดายที่ตอนนี้พวกเขายังไม่บรรลุเป้าหมายนั้น เพราะถึงแม้หลายฤดูกาลที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล จะเก็บชัยชนะได้เยอะพอตัว แต่ค่าเฉลี่ยการชนะต่อฤดูกาลของทีมนับตั้งแต่ที่ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป เข้ามาเทคโอเวอร์ มันอยู่ที่ 19 เกมต่อฤดูกาล ขณะที่ในช่วง 1 ทศวรรษก่อนที่ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป จะเข้ามาบริหารทีมนั้น ค่าเฉลี่ยการเก็บชัยชนะได้อยู่ที่ 20 เกมต่อซีซั่น
ยิ่งไปกว่านั้น ค่าเฉลี่ยการแพ้ต่อฤดูกาลมันก็เพิ่มขึ้นจากทศวรรษก่อนด้วย โดย 1 ทศวรรษก่อนหน้านี้อยู่ที่ 8 นัดต่อฤดูกาล แต่ตอนนี้อยู่ที่ราว 10 เกมต่อซีซั่น
สรุป : เกือบผ่าน แต่ยังไม่ดีพอ
– ดึงดูดนักเตะเก่งๆ ด้วยการลดหนี้
มันเป็นเรื่องธรรมดาในแวดวงธุรกิจที่การบริหารองค์กรมันต้องมีหนี้เกิดขึ้นบ้าง ประเด็นที่สำคัญก็คือเรื่องที่ว่าหนี้มันมีเยอะแค่ไหน ซึ่งเจ้าของทีมหลายกลุ่มก่อนหน้า เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป ได้สร้างหนี้ให้ ลิเวอร์พูล เยอะพอตัว
การมีหนี้เยอะมันส่งผลต่อการดึงนักเตะฝีเท้าดีให้มาอยู่กับทีมเช่นกัน เพราะในโลกนี้มันคงมีลูกจ้างเพียงไม่กี่คนที่ยินดีจะมาอยู่กับองค์กรที่มีหนี้ติดตัวบานเบอะ นั่นทำให้ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป ประกาศว่าจะพยายามลดหนี้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งจนถึงตอนนี้พวกเขาก็ทำผลงานได้น่าประทับใจอย่างมาก
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือการที่รายจ่ายโดยรวมจากการเสริมทัพของ ลิเวอร์พูล อยู่ที่ 267 ล้านปอนด์ (ประมาณ 12,015 ล้านบาท) เท่านั้น เพราะถึงแม้จะเสียเงินซื้อนักเตะไป 817 ล้านปอนด์ (ประมาณ 36,765 ล้านบาท) แต่พวกเขาก็ได้เงินจากการขายนักเตะรวมแล้วสูงถึง 550 ล้านปอนด์ (ประมาณ 24,750 ล้านบาท) ด้วยกัน
สรุป : ทำได้ตามสัญญา
Be the first to comment